บราวนี่

บราวนี่ เป็นคุกกี้ชนิดหนึ่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Sheet Cookies หรือ คุกกี้แผ่นมีลักษณะคล้ายเค้ก ที่ไม่ขึ้นฟูมาก นิยมอบในถาดแบบ สี่เหลี่ยมผืนผ้า และตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม บางตำราจะเคลือบหน้าด้วยช็อคโกแลต และโรยด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์สับ เพื่อความอร่อย และดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น

นักประวัติศาสตร์อาหารสันนิษฐาน ว่า เจ้าขนมรูปทรงสี่เหลี่ยมชนิดนี้เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 กล่าวกันว่าบราวนี่เกิดจากความบังเอิญ ในการทำเค้กช็อกโกแลตโดยลืมใส่ผงฟู เมื่ออบออกมาแล้วเค้กจึงไม่ขึ้นฟู แต่กลับได้ขนมสีน้ำตาลเข้มเนื้อแน่น อันเป็นที่มาของชื่อ “Brownie” นั่นเอง เรียกได้ว่า ความหลงลืมหรือความผิดพลาดในครั้งนั้นกลายเป็นปัจจัยผลักดันความก้าวหน้าให้ขนมชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้

ที่มา http://th.openrice.com/bangkok/restaurant/article/print.htm?article_id=20

วิธีการทำคุกกี้

ส่วนผสม แป้งเอนกประสงค์ 1+1/4 ถ้วย ผงโกโก้ ¼ ถ้วย เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนช้า เกลือ ½ ช้อนชา ช๊อกโกแล็ตชิพ ½ ถ้วย เนย ½ ถ้วย หรือ 113 กรัม(ทิ้งไว้ให้นิ่มเล็กน้อยแต่ไม่เละ) น้ำตาลทราย ½ ถ้วย(เม็ดละเอียด) น้ำตาลทรายแดง ¼ ถ้วย ไข่ 1 ฟอง นมสด 2 ช้อนโต๊ะ วนิลา 1 ช้อนชา ช๊อกโกแล็ตชิพ 1 ถ้วย วิธีทำ 1. ล่อนแป้ง ผงโกโก้ เบกกิ้งโซดา เข้าด้วยกัน ใส่เกลือและคนให้เข้ากัน พักไว้ก่อน 2. ละลายช๊อกโกแล็ตชิพ ½ ถ้วย ด้วยไมโครเวฟ ประมาณ 1 นาที คนให้เข้ากัน และใส่อีก 30 วินาที คนอีกทีและทิ้งไว้ให้เย็น พักไว้ก่อน 3. ตอกไข่ใส่ลงในถ้วย เติมนมและวนิลา เตรียมไว้ให้พร้อม 4. ใส่เนยและน้ำตาลทั้งสองอย่างลงในถ้วย แต่ตีด้วยความเร็วปานกลางแค่พอเข้ากัน(ไม่ต้องตีนานจนขึ้นฟู) 5. ใส่ช๊อกโกแล็ต ไข่ วนิลาและนม ลงในส่วนผสมของเนยและน้ำตาล ตีต่อให้เข้ากันอีกเล็กน้อย ปาดขอบอ่างลงบ้าง 6. ใส่ส่วนผสมของแป้ง ตีเบาๆ ให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำสุด หรือใช้พายคนเอาก็ได้ ที่สำคัญคือห้ามตีนาน 7. ใส่ช๊อกโกแล็ตชิพ 1 ถ้วย(แบ่งไว้โรยหน้าบ้างเพื่อความสวยงาม) คนให้เข้ากันด้วยพาย 8. ใช้ที่ตักไอศครีมขนาดเล็ก หรือใช้ช้อนตักคุ๊กกี้ทำเป็นลูกกลมๆ ไม่ต้องกดให้แบน วางลงบนถาดที่ปูด้วย parchment paper วางห่างกันประมาณ 2 นิ้ว อบด้วยไฟ 350F หรือ 180C ประมาณ 10-11 นาที เสร็จแล้วเอาออกจากเตา วางถาดไว้บนตะแกรง ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที พอคุ๊กกี้เริ่มเซ็ตตัว ใช้ตะหลิวแซะคุ๊กกี้ออกจากถาดและวางบนตะแกรงทิ้งไว้จนเย็น เก็บใส่กล่องปิดให้สนิท *** คุ๊กกี้สูตรนี้แพทไม่ได้แช่ตู้เย็นเลยนะคะ พอทำส่วนผสมเสร็จก็อบเลย ก็ได้คุ๊กกี้ที่มีขนาดกำลังดี ไม่หนาและไม่บางจนเกินไป รูปขั้นตอนการทำ เตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อมตั้งแต่ข้อ 1-3 ใส่เนยและน้ำตาลทั้งสองอย่างลงในถ้วย ตีด้วยความเร็วปานกลางแค่พอเข้ากัน ขั้นตอนนี้แพทไม่ได้ใช้เวลาในการตีนานนัก ตีไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ เพราะไม่อยากให้เนยและน้ำตาลขึ้นฟู แพทไม่ชอบกินคุ๊กกี้ที่เนื้อฟู ใส่ช๊อกโกแล็ตที่ละลายไว้ ไข่ วนิลาและนม ลงในส่วนผสมของเนยและน้ำตาล ตีต่อให้เข้ากันอีกเล็กน้อย และปาดขอบอ่างลงบ้าง ใส่ส่วนผสมของแป้ง ตีเบาๆ ให้เข้ากันด้วยความเร็วต่ำสุด หรือใช้พายคนเอาก็ได้ ที่สำคัญคือห้ามตีนาน และก็ใส่ช๊อกโกแล็ตชิพ 1 ถ้วยลงไป(แบ่งไว้โรยหน้าบ้างเพื่อความสวยงาม) คนให้เข้ากันอีกครั้งด้วยพาย ใช้ที่ตักไอศครีมขนาดเล็ก หรือใช้ช้อนตักคุ๊กกี้โดว์วางลงบนถาดที่ปูด้วย parchment paper วางห่างกันประมาณ 2 นิ้ว อบด้วยไฟ 350F หรือ 180C ประมาณ 10-11 นาที เสร็จแล้วเอาออกจากเตา วางถาดไว้บนตะแกรง ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที พอคุ๊กกี้เริ่มเซ็ตตัว ใช้ตะหลิวแซะคุ๊กกี้ออกจากถาดและวางบนตะแกรงทิ้งไว้จนเย็น เก็บใส่กล่องปิดให้สนิท *** *** ***

ที่มา http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=joo&month=18-03-2008&group=5&gblog=7

ประวัติความเป็นมาของคุกกี้

คุกกี้ คือขนมอบชิ้นเล็ก ๆ รูปร่างแบน ซึ่งทำจากแป้งสาลี คำว่าคุกกี้มีที่มาจากคำในภาษาดัตช์ koekje ซึ่งหมายถึง "เค้กชิ้นเล็ก ๆ" แรกเริ่มเดิมทีนั้น คุกกี้ทำโดยการแบ่งแป้งขนมเค้กที่ผสมแล้วออกมาส่วนหนึ่ง จากนั้นแบ่งออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำเข้าเตาอบ เพื่อทดสอบอุณหภูมิที่จะใช้อบขนมเค้ก คำว่า "คุกกี้" (cookie) ใช้กันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในขณะที่ในสหราชอาณาจักรจะเรียกขนมแบบเดียวกันนี้ว่า "บิสกิต" (biscuit)


















 ที่มา http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B5%E0%B9%89